โรคถั่วเหลือง
โรคต่างๆ ที่สำคัญของถั่วเหลืองได้แก่
1. โรคราสนิม
อาการของโรค อาการจะปรากฏบนใบจริงคุ่แรกของต้นถั่วเหลืองที่มีอายุตั้งแต่
2 สัปดาห์ หรือเมื่อเริ่มออกดอก โดยพบแผลลักษณะเป็นจุดสีน้ำตาลเล็กๆ ทางด้านใต้ใบ
ต่อมาจุดสีน้ำตาลนี้จะขยายนูนขึ้นมาดูคล้ายขุยผงสีน้ำตาลหรือสีสนิม เมื่อถึงระยะนี้เชื้อโรคจะแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วทำให้ใบแสดงอาการจุดเล็กๆ
ทั่วทั้งใบ ใบที่เป็นโรคจะร่วงก่อนแก่ฝักที่มีอยู่อาจเล็กผิดปกติหรือลีบไม่มีเมล็ด
การป้องกันกำจัด
1.ใช้พันธุ์ต้านทานโรค คือ เชียงใหม่ 60
2. ปลูกพืชหมุนเวียนอื่น ๆ ยกเว้นมันแกว
3. ใช้เมล็ดพันธุ์ที่สมบูรณ์ปราศจากเชื้อโรค
4. ฉีดด้วยสารเคมี แมนเซท-ดี หรือไดเทนเอ็ม-45 อัตรา 30-40 กรัมผสมน้ำ
20 ลิตร ฉีดพ่นให้ทั่วโดยเฉพาะตรงใบล่างๆ ตั้งแต่อายุ 40 วัน และฉีดหลังจากนี้อีก
2ครั้ง ห่างกัน 7วัน ถ้าไม่ปรากฏอาการของโรคก็ไม่ต้องฉีด
2. โรคราน้ำค้าง
สาเหตุ เกิดจากเชื้อรา เกิดทั่วๆไปในแหล่งที่ปลูกที่มีอากาศค่อนข้างเย็น
ผลผลิตเสียหายได้ทั้งใบและเมล็ด
อาการของโรค ขึ้นแรกจะเห็นเป็นจุดขนาดเล็กสีเขียวอ่อนทางด้านบนของใบ
ต่อมาจะเปลี่ยนเป็นสีเทา-น้ำตาล หรือเป็นแผลสีน้ำตาล-ดำ
โดยมีขอบแผลสีเหลืองเขียวใต้ใบ ในตอนเช้า ๆ ที่มีน้ำค้าง แผลจะมีกลุ่มของเส้นใยสีเทาอ่อนและสีเทา-ม่วงขึ้นปกคลุม
ใบที่เป็นโรคมากจะเหลืองและกลายเป็นน้ำตาล และร่วง
โรคนี้เกิดกับฝักได้ ภายในฝักและเมล็ดจะห่อหุ้มอย่างแน่หนาด้วยเชื้อราสีเทาอ่อน
เมล็ดถั่วเหลืองเหล่านี้เมื่อนำไปปลูกจะเป็นโรคได้อีก โดยจะสังเกตใบที่งอกใหม่อายุ
2 สัปดาห์จะเห็นจุดขนาดใหญ่บนใบคู่แรกและใบคู่ที่ 2 และต้นกล้าจะตายไป
การป้องกันกำจัด
1. ใช้เมล็ดพันธุ์ที่สะอาดปราศจากโรค
2. ทำลายซากพืชที่เป็นโรคหลังการเก็บเกี่ยว
3. ใช้สารเคมีคลุกเมล็ดพันธุ์เช่น แคปแทน หรือ ไดโฟลา-แทน ในอัตรา
1-2.5 กรัม ต่อเมล็ดพันธุ์ 1 กิโลกรัม หรือใช้เอพรอน ในอัตรา 7 กรัมคลุกเมล็ดพันธุ์
1 กิโลกรัม จะลดปริมาณของเชื้อโรคลงได้ลง
3.โรคใบจุดนูนหรือแบคทีเรียพัสตูล
สาเหตุ เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย
อาการของโรค อาการเริ่มแรกเกิดเป็นจุดสีเหลืองแกมเขียวและมีรอยนูนเล็ก
ๆ ขึ้นมาตรงกลางแผล พบอาการทั้งด้านใต้ใบและบนใน ต่อมาจะพบเป็นรอยแผล เป็นกลุ่มกระจายทั่วไปและมีสีน้ำตาลแดง
มีรอยสีเหลืองซีดล้อมเป็นวงรอบแผลเมื่อแผลแห้งจะตกสะเก็ดเป็นรอยบุ๋มลึกลงไปกลางแผลแผลอาจเกิดเป็นรอย
ติดต่อกันเป็นสีน้ำ |