การ
ดื่ม
ชา
นั้น
ได้
เริ่ม
ขึ้น
ใน
ประเทศ
จีน คาด
ว่า
ไม่
น้อย
กว่า 2,167 ปี
ก่อน
คริสตกาล ตำนาน
การ
เริ่ม
ต้น
ของ
การ
ดื่ม
ชา
มี
หลาย
ตำนาน บ้าง
ก็
กล่าว
ว่า
จักรพรรดิเสิน
หนงของ
จีน (Shen Nung) ค้น
พบ
วิธี
ชง
ชา
โดย
บัง
เอซ เมื่อ
พระ
องค์
ทรง
ต้ม
น้ำ
ดื่ม
ใกล้ๆ กับต้น
ชา ขณะ
รอ
คอย
ให้
น้ำ
เดือดกิ่งชา
ได้
หล่น
ลง
ใน
หม้อ
ชา สัก
พัก
หนึ่ง
กลิ่น
หอม
กรุ่น
ก็
โชย
ออก
มา เมื่อ
พระ
องค์
เอากิ่งชา
ออก
แล้ว
ทรง
ดื่ม
ชา
กัน
อย่าง
แพร่
หลาย
มาก
ขึ้น
ใน
เวลา
ต่อ
มา นอก
จาก
ทรง
ค้น
พบ
สรรพ
คุณ
ของ
ชา
แล้ว
พระ
องค์
ยัง
ทรง
ค้น
คว้า
และ
ทด
สอบ
สมุน
ไพร
ชนิด
ต่าง ๆ กว่า 200 ชนิด ชาว
จีน
จึง
ได้
นับ
ถือ
ว่า
พระงค์เป็น
บิดา
แห่งแพทย์
ศาสตร์ อีก
ตำนาน
หนึ่ง
กล่าว
ถึง นัก
บวชชี่อธรรม ซึ่ง
เป็น
โอรส
ของ
กษัตริย์
อินเดียวได้
เดิน
ทางมา
จาริก
บุญ
เพื่อ
เผย
แผ่
พระ
พุทธ
ศาสนา
ใน
จีน ใน
ช่วง
แผ่น
ดิน
ของ
จักรพรรดิ
ถู
ตี่ ใน
ช่วง
ปี ค.ศ.519 จักรพรรดิ
ถูตี่
ทรง
นิยม
ชม
ชอบ
นัก
บวช
จึง
ได้
นิมนต์
ให้
นัก
บวช
ไป
พัก
อยู่
ใน
ถ้ำ
แห่งหนึ่ง
ในเ
มืองนานกิง ขณะ
ที่
นัก
บวช
ได้
สวด
มนต์
ภาวนา
อยู่
ก็
เกิด
เผลอ
หลับ
ไป
ทำ
ให้
ชาว
จีน
หัวเราะ
เยาะ เพื่อ
เป็น
การ
ลง
โทษ
ตน
เอง มิ
ให้
กระ
ทำ
ความ
ผิด
เช่น
นั้น
อีก ท่าน
ธรรม
จึง
ได้
ตัด
หนัง
ตา
ของ
ตน
ทิ้ง
เสีย หนัง
ตา
เมื่อ
ตก
ถึง
พื้น
ก็
เกิด
งอก
ขึ้น
เป็น
ต้น
ชา ซึ่ง
เป็น
นิมิต
ที่
แปลก ชาว
จีน
จึง
พา
กัน
เก็บ
ชา
มา
ชง
ใน
น้ำ
ดื่ม
เพื่อ
รักษา
โรค
นอก
จาก
นี้
ยัง
มี
ตำนาน
เล่า
ขาน
กัน
อีก
ว่า
ใน
สมัย
หนึ่ง